วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บทความ ดูแลรักษาไม่ให้มีกลิ่นเท้า

1. ธรรมชาติบำบัด

ทุกครั้งหลังอาบน้ำให้โรยแป้งฝุ่นให้ทั่วๆ เพื่อให้เท้าแห้งไม่อับชื้น
- อีกวิธีหนึ่งก็คือ นำถุงน้ำชาที่ชงแล้วสัก 4 - 5 ถุงมาแช่ใส่อ่างน้ำอุ่น อ่างใบเล็กๆ แช่เท้าลงไปในน้ำอุ่นประมาณ 5 นาที ทำเช่นนี้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง เท้าจะไม่มีกลิ่น เพราะถุงชาจะเปลี่ยนความเป็นกรดด่างและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
ปล่อยเท้าให้เปลือยเปล่าบ้าง
- เท้าที่นุ่มนวลไม่หยาบกร้านนั้นย่อมเป็นเท้าที่คุณผู้หญิงทั้งหลายควรจะเป็นเจ้าของ ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวของใบหน้าและทั่วเรือนร่างแต่ทวากลับละเลยส่วนของเท้าไปอย่างน่าน้อยใจแทนเท้าทั้งสองข้าง การปล่อยเท้าเปลือยเปล่าบ้างนั้น คือวิธีที่ง่ายดายที่สุดที่จะทำให้ผิวเท้านวลเนียน
เพราะการสวมถุงเท้า - รองเท้า และถุงน่อง อยู่ทุกๆ วัน วันละหลายชั่วโมงนั้นค่อนข้างทำร้ายเท้าให้อับและต้องทนหมักเซลล์ผิวตายๆ เอาไว้ถึง 200 มิลลิกรัมในแต่ละวัน และนี่เองที่ทำให้เท้าของคุณหยาบไม่นุ่มสดใสเหมือนแขนหรือลำตัว รู้เช่นนี้แล้วก็ เว้นๆ การสวมถุงน่อง ถุงเท้า และรองเท้าบ้าง ควรเปลือยเท้าสบายๆ และชโลมโลชั่นบำรุงผิวให้เท้าของคุณด้วย
ดูแลเท้าหยาบ - แตก
- ถนอมเท้าให้นุ่มนวลน่าสัมผัสและผ่อนคลายความเมื่อยขบจากการใช้งานหนักด้วย การแช่เท้าในน้ำอุ่นๆ ผสมน้ำมันยูคาลิปตัสและเกลือทะเลแช่นานสัก 10 นาที จากนั้นเช็ดซับให้แห้ง ใช้วาสลีนธรรมดาๆ (ปิโตรเลียม เจลลี่) ชโลมลูบให้ทั่วๆ ทั้งส้นเท้าและหลังเท้า และหาถุงเท้าบางๆ มาสวมไว้สัก 30 นาทีจึงค่อยถอดถุงเท้าออก วาสลีนที่ซึมสู่ผิวจะช่วยถนอมดูแลให้เท้าของคุณมีความนุ่มนวลไม่แตกไม่หยาบกร้าน และยังเรียบเนียนดีอีกด้วย

การบำรุงเท้า
- เคล็ดลับอีกประการหนึ่งที่ควรทำก่อนนอนทุกคืน ก็คือ ดูแลเท้าของคุณให้อ่อนนุ่มอยู่เสมอ ชนิดที่ว่าจับแล้วไม่พบถึงความสาก ความด้าน หลังจากขัดและนวดเท้าเสร็จแล้ว ก่อนนอนลองนำเอาวาสลีนปิโตรเลียมเจล มาถูนวดบริเวณเท้าให้ทั่ว ประมาณข้างละ 5 - 10 นาที นวดเบา ๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้า และกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี หลังจากนวดเสร็จก็สวมถุงเท้าไว้ และเข้านอนได้เลย ตื่นขึ้นมาคุณจะพบกับความนุ่มของเท้าที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ

2. เกลือมะนาว ดับกลิ่นเท้า

นำน้ำร้อนผสมกับเกลือสมุทร คนให้เข้ากัน บีบน้ำมะนาวผสมลงไปด้วย จากนั้นเติมน้ำเย็นให้น้ำอุ่นพอดีๆ แช่ทั้งสองเท้าลงไปสัก 10 นาที ระหว่างแช่ก็นวดเท้า ขัดเล็บไปด้วย กลิ่นเท้าก็จะค่อยๆ หายไปเอง ทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่อย่าลืมทาครีมบำรุงเท้าด้วยนะจ๊ะ

3. เวชศาสตร์บำบัด
ยาฉีดเพื่อลดเหงื่อที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า คือ โบท็อกซ์ ซึ่งเป็นยาที่ใช้แพร่หลายในการลดริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ใบหน้า ทั้งรอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว และรอยย่นที่หน้าผาก มีการนำยาตัวนี้มาใช้ลดอาการปวดศีรษะที่เรียกว่า ไมเกรน และใช้นำมารักษาเหงื่อออกที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้ามาก โดยฉีดยาเข้าไปที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า แต่ค่าใช้จ่ายสูงมากและได้ผลอยู่ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี และการฉีดยาที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เจ็บมาก เทคนิคนี้จึงยังไม่เป็นที่นิยมกันแพร่หลาย อีกเทคนิคที่นำมาใช้รักษาเหงื่อออกมาก คือการใช้เครื่องมือไอออนโต ที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบันว่าทำให้หน้าใส หน้าขาว และลบรอยแผลเป็นสิว การใช้ไอออนโตเพื่อลดเหงื่อออก ทำกันมานับ 70 ปีแล้ว โดยใช้เครื่องมือไอออนโตและสารเคมีเป็นแค่น้ำประปาธรรมดา ทำบริเวณที่มีเหงื่อออกมากครั้งละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จนเหงื่อลดลงเป็นปกติ วิธีนี้ไม่เจ็บและค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก พบว่าส่วนหนึ่งของคนที่เหงื่อออกที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้ามาก จะมีลักษณะตื่นเต้น ตกใจง่าย วิตกกังวล และรู้สึกไม่มั่นคง บางครั้งหากเปลี่ยนอุปนิสัยให้เยือกเย็นและสงบขึ้น เหงื่อออกที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า จะดีขึ้น นอกจากนั้นถ้าไม่เคยตรวจสุขภาพก็แนะนำให้ไปพบอายุรแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกายทั่วไป เพราะโรคบางอย่าง เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษก็อาจทำให้เหงื่อออกเยอะได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแนะนำว่าก่อนมีการใช้ยาทุกชนดควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น